ปลาใหม่เข้ามาถึงหมาด ๆ ใครจะไปอดใจไหว แต่ก่อนอื่นนั้น ขอเวลาทุกท่านสักนิด ไม่นานครับ
ลองมาซักซ้อมความเข้าใจกันสักนิด
แทุกท่านเป็นมือโปร มือเซียนทั้งนั้น เรื่องนี้ผมทราบดีอยู่ แต่ขออนุญาตบ่นเรื่องเก่า ๆ ระดับพื้นฐานอีกสักครั้ง ก่อนที่จะเริ่มคัดเลือกปลานั้น ลองตอบโจทย์ดูก่อนว่าเราต้องการอะไร บ่อของเราสามารถรองรับปริมาณปลา และความต้องการของเราได้หรือไม่ เรามีเวลาที่จะเอาใจใส่เพื่อการพัฒนาของปลามากน้อยอย่างไร บ่อเล็กปลาแน่น จะเลี้ยงปลาให้ได้ดี เป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังภายในมากพอสมควร
มีเซียนท่านนึง เคยวิเคราะห์ประเภทนักเลี้ยงปลาโค่ย ออกเป็น 3 กลุ่ม
1. กลุ่มเลี้ยงเป็นHOBBY กลุ่มนี้เลี้ยงปลาสนุกสนานฮาเฮ ไม่เน้นอะไรมากนัก ซื้อปลาไม่แพงไม่คาดหวังอะไรจากปลาที่ซื้อนอกจากสีสรร และความหลากหลาย ความสนใจของกลุ่ม HOBBY อยู่ที่ความมีชีวิตชีวาของบ่อน้ำ
2. กลุ่มเอาจริงเอาจัง SERIOUS HOBBY กลุ่มนี้มีความคาดหวังจากปลาที่ซื้อมากอยู่ อยากให้ปลาเป็นจัมโบ้ อยากได้ปลาผิวดี สีสวย
กลุ่มนี้ใช้เงินและเวลามากกว่ากลุ่มแรกมาก เพื่อคัดสรร และพัฒนาศักยภาพของปลาที่เลือกมาเลี้ยง
3. กลุ่มแข่งขัน COMPETITION กลุ่มนี้รักการประกวด มองหาปลาที่สามารถแข่งขันได้ ลวดลายคุณภาพตามตำรา
ตรงใจกรรมการฯ กลุ่มนี้ยังแยกเป็น 2 กลุ่มย่อยได้อีกที พวกล่าแชมป์ปลาเล็กปลาแปลก และกลุ่มปลาใหญ่
แต่ละกลุ่มเลือกหาปลาแตกต่างกันนะครับ ถ้าเป็นกลุ่ม 1, 2 และ 3 ชนิดของแท้ของจริงแล้วละก็ ผมคงไม่ต้องว่าอะไรเพิ่มเติม
แต่ส่วนใหญ่นักเลี้ยงปลาบ้านเรามักจะอยู่ระหว่างกลุ่ม 1 และ 2 …....... น่าจะเป็นพวก 1.5 หรือ 1.75 อะไรทำนองนั้น
ครั้งนี้จึงขอสอนหนังสือให้สังฆราชอีกสักครั้ง ลองมาทบทวนกันดูอีกที
1. บ่อของเรา มีศักยภาพเพียงใด
2. เรามีเวลาและปัจจัยอื่น ๆ ในการสร้างพัฒนาการให้ปลา มากน้อยเพียงพอหรือไม่ อย่างไร
บ่อเลี้ยงปลาที่เล็ก (น้อยกว่า 20 ตัน) และตื้น (น้อยกว่า 1.8 เมตร) จะมีปัญหากับการพัฒนารูปร่างของปลาตัวเมีย
ถ้าบ่อไหนทั้งเล็กและตื้นด้วย อย่างนี้ต้องใช้พลังงานในการปฏิบัติการสูงกว่าปกติ นักช้อปมักจะเลือกหาปลาตัวเมียไว้ก่อนเพราะหุ่นดีกว่า (ในอนาคต)
ทำให้ปลาตัวเมียราคาสูงกว่าปลาตัวผู้หลายเท่า การมองหาปลาตัวผู้ที่รูปร่างหนา ผิวพรรณผ่องใสอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของชาว 1.25 หรือ 1.5 ยิ่งถ้าเป็นนักเสี่ยงโชคด้วยแล้วปลาโตไซ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก โตไซ ตัวผู้ราคาน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับชาว 1.75 หรือมากกว่านั้นพวกนี้ชอบปลาตัวเมีย ซึ่งอาจเลียนแบบมาจากชิวิตจริงก็ได้ การเลือกปลาตัวเมียมีวิธีการ ขั้นตอนหลากหลายเทคนิค ทั้งดูลักษณะ/รูปร่างของครีบ (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย) ความหนาของก้านครีบ ลักษณะของพื้นสี
เรื่องนี้หนังสือหลายเล่มเขียนกันมาแล้วหลายครั้ง ผมขอเล่าเรื่องการมองการเติบโตของปลาในอนาคต ผมว่าน่าสนใจกว่า
อันว่าหัวใหญ่-ปากกว้าง-หางใหญ่นั้น ผมก็ขอข้ามไปเช่นกัน ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว ขอแทรกไว้เป็นเกร็ดแต่เพียงเล็กน้อยว่า หัวปลา(เล็ก) ของซันเก้
จะเป็นสามเหลี่ยมมากกว่าโคฮากุ ส่วนปลาโชว่านั้น ในปลานิไซขึ้นไปจะมีความลึก (กลางตัว) มากกว่า โคฮากุและซันเก้
กลับมาเข้าเรื่องการเติบโตของปลาในอนาคตดีกว่า บรรดาปลาเล็กปลาน้อยที่เราได้มานั้น เมื่อเติบโตขึ้นมีลักษณะการโตเป็นแบบไหน ???
เรื่องนี้สำคัญมากถึงมากที่สุด เมื่อใช้ประกอบการจินตนาการ รูปแบบของแพทเทิร์นในอนาคต
ถ้าเราแบ่งปลาโค่ย ออกเป็น 3 ส่วน (ตามภาพ) คือส่วนบน(หลังปลา) ส่วนกลาง(เส้นประสาทกลางตัว , LATERAL LINE) และส่วนล่าง(ท้องปลา)
เมื่อปลาเติบโตขึ้นมีขนาดใหญ่ขึ้น เฉพาะส่วนบนและส่วนล่างเท่านั้นที่มีการสร้างเกล็ดใหม่
คือด้านบนจะมีเกล็ดใหม่เกิดขึ้น จากบริเวณสันหลัง(กระโดงหรือครีบหลัง) เสมือนกับว่าปลายืดขึ้นด้านบน
เช่นเดียวกับด้านล่างเกล็ดใหม่ ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากส่วนท้อง ทำให้ดูเหมือนกับปลายืดลงด้านล่างเมื่อมีการเติบโตขึ้น
ยกตัวอย่างเป็นสายพันธุ์โคฮากุ (ตามภาพ) เมื่อส่วนกลางค่อนข้างจะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
จะเห็นได้ว่าส่วนล่างของปลาคือสีของเกล็ดใหม่จากท้องเป็นสีขาว เมื่อปลาโตขึ้นจึงเหมือนกับว่าสีขาว
ดันขึ้นจากล่างขึ้นบน จนถึงส่วนกลาง ส่วนสีแดงข้างบนนั้นจะเลื่อนลงมาข้างล่างจนถึงกลางลำตัวเช่นกัน
แต่ว่าส่วนบนจะยืดขึ้นน้อยกว่าส่วนล่าง โดยมีสัดส่วนเป็น 1: 2 (โดยประมาณ)
เมื่อเทียบกับการเคลื่อนที่ของสีขาว (จากล่างขึ้นบน) ส่วนนี้เอง ที่ทำให้ดูเหมือนกับสีแดงหดขึ้นไปข้างบน
ลองดูตามภาพโคฮากุข้างล่างนี้นะครับ รูปแรก คือปลาอายุ 1.5ปี ขนาดประมาณ 30ซม. ส่วนรูปล่าง2รูป คือเมื่อปลาโตขึ้น ขนาด60ซม.
เรื่องของการมองปลาไปที่อนาคต ยังมีอีกหลายมุมมองครับ
1. “ปลาคาร์พที่ดีคือปลาที่สามารถพัฒนาได้ดีขึ้นในอนาคต”
เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ Tategoi ถึงแพง แต่ยิ่งแพงกว่าต้องเป็น
“คาชิร่ามาเวอริค” ตัวนี้มันเป็นปลาคาร์พที่เจ้าของฟาร์มหรือ breeder
เก็บเอาไว้เอง ไม่ขายให้ใครง่ายๆ ให้ดูยังไม่ให้ดูเลย ลองคิดดูสิครับปลาคาร์พตัวนึงอายุก็ประมาณ 10 ปี ถ้าเพื่อนๆซื้อมาสวยมาก แต่เลี้ยงไปเลี้ยงไปดูแย่ลงแย่ลง จะไปสู้ยิ่งเลี้ยงยิ่งสวย ยิ่งเลี้ยงยิ่งปิ๊งได้ไง เค้าจึงเรียกว่า Nishikigoi Appreciation ไง
ดังนั้นจึงมีกรณีปลาที่ชนะการประกวดมาราคาถูกกว่า ปลา Tate และคาชิร่า อีกอย่าง Tategoi เป็นปลาได้ตั้งแต่ 1-2-3 ปีครับ เพราะ peak performance อยู่ที่ 5 ปีไปแล้ว
2. “ลักษณะลำตัวที่โตขึ้น สามารถเปลี่ยนความสวยงามของปลาได้”
ข้อนี้บอกว่าเวลาเลือกปลาจะต้องใช้จินตนาการว่าถ้าปลาตัวที่เราปิ๊งโตขึ้นแบบว่า เบ่งออกด้านข้าง pattern จะมีการเปลี่ยนไปอย่างไร ปลาบางตัวตอนเล็กดูดีพอตอนโตแล้วลายลอยเป็นต้น ดังนั้นเวลาเลือกจะต้องใช้จินตนาการเวลาเลือกคือลองนึกดูว่าเมื่อโตขึ้นแล้วลายจะออกมาอย่างไร pattern ของ Kohaku จึงควรที่จะห่อตัวโดยให้ลายแดงลึกลงไปเลยเส้นกลางลำตัวของปลา เมื่อโตขึ้นจะได้ไม่ลอย
3. “อย่ากังวลกับครีบแตกหรือครีบโคนแดงของปลา Tosai”
4. “ผิวสีชมพูบน shiroji ในปลา Tosai สามารถให้ผิวสีขาวที่มีคุณภาพดี”
5. “Shiroji จะกว้างขึ้นเมื่อปลาโตขึ้น”
Shiroji ส่วนที่เป็นสีขาวที่อยู่ระหว่าง hi (สีแดง) เวลาเราเลือกปลา Tosai นั้นอาจดูแคบ แต่เมื่อโตขึ้นจะถ่างออก (จากหน้าไปหลัง) เนื่องจากปลาโตขึ้น ซึ่งก็คือเวลาเลือกซื้อควรจินตนาการทั้งว่าปลาตัวขยายขึ้นและยาวขึ้นด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจริงๆแล้วการซื้อปลา Tosai นั้น pattern และรูปร่าง (body conformation) มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้สูง
ดังนั้นการซื้อปลา Nisai (2 ปี) หรือยิ่งเป็น Sansai (3 ปี) จะมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า
6. “Sashi ที่ดี และ Kiwa ที่ดี”
Sashi คือส่วนที่เกล็ดสีขาวทับบนเกล็ดสีแดง จะเห็นได้ว่าเกล็ดสีขาวจะใสๆดังนั้นจึงเห็นขอบ (Sashi) เป็นสีชมพู
Sashi ที่ดีที่สุดจะเรียงเกล็ดแถวเดียวตลอดแนวที่ Shiroji(สีขาว) มาเจอกับ Hi(สีแดง) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซ้อนกัน 2 เกล็ดคือสีชมพู 2 เกล็ดและสม่ำเสมอก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ดังนั้นการเลือก sashi ที่ดีคือต้องมีความสม่ำเสมอในรอยต่อนั่นเอง
Kiwa คือส่วนที่เกล็ดสีแดงทับสีขาว ก็คือบริเวณที่ต่อระหว่าง Hi (แดง) กับ Shiroji (ขาว)
หากเป็นปลาที่มีคุณภาพดีเกล็ดสีแดงจะมีความเข้ม (ไม่ใสตามที่เรามักจะใช้คำว่าแดงลึกนั่นเอง)
ซึ่งญี่ปุ่นเค้าเปรียบเทียบกับรอยมีดโกนตัด (Razor cut) การเลือก Kohaku ที่ดีจึงต้องพิจารณา Sashi และ Kiwa
ด้วยนอกจาก body conformation (ลักษณะรูปร่าง) และ pattern (ลวดลาย) ในปลาขนาด size 4-5 ขึ้นไป
บางตัวมีpatternที่ดีแต่ดูไม่สะดุดตาเนื่องจาก SashiและKiwaเบลอ การเลือกsashi และkiwaที่ดีจะเป็นการทำให้patternชัดเจน
แทุกท่านเป็นมือโปร มือเซียนทั้งนั้น เรื่องนี้ผมทราบดีอยู่ แต่ขออนุญาตบ่นเรื่องเก่า ๆ ระดับพื้นฐานอีกสักครั้ง ก่อนที่จะเริ่มคัดเลือกปลานั้น ลองตอบโจทย์ดูก่อนว่าเราต้องการอะไร บ่อของเราสามารถรองรับปริมาณปลา และความต้องการของเราได้หรือไม่ เรามีเวลาที่จะเอาใจใส่เพื่อการพัฒนาของปลามากน้อยอย่างไร บ่อเล็กปลาแน่น จะเลี้ยงปลาให้ได้ดี เป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังภายในมากพอสมควร
มีเซียนท่านนึง เคยวิเคราะห์ประเภทนักเลี้ยงปลาโค่ย ออกเป็น 3 กลุ่ม
1. กลุ่มเลี้ยงเป็นHOBBY กลุ่มนี้เลี้ยงปลาสนุกสนานฮาเฮ ไม่เน้นอะไรมากนัก ซื้อปลาไม่แพงไม่คาดหวังอะไรจากปลาที่ซื้อนอกจากสีสรร และความหลากหลาย ความสนใจของกลุ่ม HOBBY อยู่ที่ความมีชีวิตชีวาของบ่อน้ำ
2. กลุ่มเอาจริงเอาจัง SERIOUS HOBBY กลุ่มนี้มีความคาดหวังจากปลาที่ซื้อมากอยู่ อยากให้ปลาเป็นจัมโบ้ อยากได้ปลาผิวดี สีสวย
กลุ่มนี้ใช้เงินและเวลามากกว่ากลุ่มแรกมาก เพื่อคัดสรร และพัฒนาศักยภาพของปลาที่เลือกมาเลี้ยง
3. กลุ่มแข่งขัน COMPETITION กลุ่มนี้รักการประกวด มองหาปลาที่สามารถแข่งขันได้ ลวดลายคุณภาพตามตำรา
ตรงใจกรรมการฯ กลุ่มนี้ยังแยกเป็น 2 กลุ่มย่อยได้อีกที พวกล่าแชมป์ปลาเล็กปลาแปลก และกลุ่มปลาใหญ่
แต่ละกลุ่มเลือกหาปลาแตกต่างกันนะครับ ถ้าเป็นกลุ่ม 1, 2 และ 3 ชนิดของแท้ของจริงแล้วละก็ ผมคงไม่ต้องว่าอะไรเพิ่มเติม
แต่ส่วนใหญ่นักเลี้ยงปลาบ้านเรามักจะอยู่ระหว่างกลุ่ม 1 และ 2 …....... น่าจะเป็นพวก 1.5 หรือ 1.75 อะไรทำนองนั้น
ครั้งนี้จึงขอสอนหนังสือให้สังฆราชอีกสักครั้ง ลองมาทบทวนกันดูอีกที
1. บ่อของเรา มีศักยภาพเพียงใด
2. เรามีเวลาและปัจจัยอื่น ๆ ในการสร้างพัฒนาการให้ปลา มากน้อยเพียงพอหรือไม่ อย่างไร
บ่อเลี้ยงปลาที่เล็ก (น้อยกว่า 20 ตัน) และตื้น (น้อยกว่า 1.8 เมตร) จะมีปัญหากับการพัฒนารูปร่างของปลาตัวเมีย
ถ้าบ่อไหนทั้งเล็กและตื้นด้วย อย่างนี้ต้องใช้พลังงานในการปฏิบัติการสูงกว่าปกติ นักช้อปมักจะเลือกหาปลาตัวเมียไว้ก่อนเพราะหุ่นดีกว่า (ในอนาคต)
ทำให้ปลาตัวเมียราคาสูงกว่าปลาตัวผู้หลายเท่า การมองหาปลาตัวผู้ที่รูปร่างหนา ผิวพรรณผ่องใสอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของชาว 1.25 หรือ 1.5 ยิ่งถ้าเป็นนักเสี่ยงโชคด้วยแล้วปลาโตไซ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก โตไซ ตัวผู้ราคาน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับชาว 1.75 หรือมากกว่านั้นพวกนี้ชอบปลาตัวเมีย ซึ่งอาจเลียนแบบมาจากชิวิตจริงก็ได้ การเลือกปลาตัวเมียมีวิธีการ ขั้นตอนหลากหลายเทคนิค ทั้งดูลักษณะ/รูปร่างของครีบ (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย) ความหนาของก้านครีบ ลักษณะของพื้นสี
เรื่องนี้หนังสือหลายเล่มเขียนกันมาแล้วหลายครั้ง ผมขอเล่าเรื่องการมองการเติบโตของปลาในอนาคต ผมว่าน่าสนใจกว่า
อันว่าหัวใหญ่-ปากกว้าง-หางใหญ่นั้น ผมก็ขอข้ามไปเช่นกัน ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว ขอแทรกไว้เป็นเกร็ดแต่เพียงเล็กน้อยว่า หัวปลา(เล็ก) ของซันเก้
จะเป็นสามเหลี่ยมมากกว่าโคฮากุ ส่วนปลาโชว่านั้น ในปลานิไซขึ้นไปจะมีความลึก (กลางตัว) มากกว่า โคฮากุและซันเก้
กลับมาเข้าเรื่องการเติบโตของปลาในอนาคตดีกว่า บรรดาปลาเล็กปลาน้อยที่เราได้มานั้น เมื่อเติบโตขึ้นมีลักษณะการโตเป็นแบบไหน ???
เรื่องนี้สำคัญมากถึงมากที่สุด เมื่อใช้ประกอบการจินตนาการ รูปแบบของแพทเทิร์นในอนาคต
ถ้าเราแบ่งปลาโค่ย ออกเป็น 3 ส่วน (ตามภาพ) คือส่วนบน(หลังปลา) ส่วนกลาง(เส้นประสาทกลางตัว , LATERAL LINE) และส่วนล่าง(ท้องปลา)
เมื่อปลาเติบโตขึ้นมีขนาดใหญ่ขึ้น เฉพาะส่วนบนและส่วนล่างเท่านั้นที่มีการสร้างเกล็ดใหม่
คือด้านบนจะมีเกล็ดใหม่เกิดขึ้น จากบริเวณสันหลัง(กระโดงหรือครีบหลัง) เสมือนกับว่าปลายืดขึ้นด้านบน
เช่นเดียวกับด้านล่างเกล็ดใหม่ ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากส่วนท้อง ทำให้ดูเหมือนกับปลายืดลงด้านล่างเมื่อมีการเติบโตขึ้น
ยกตัวอย่างเป็นสายพันธุ์โคฮากุ (ตามภาพ) เมื่อส่วนกลางค่อนข้างจะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
จะเห็นได้ว่าส่วนล่างของปลาคือสีของเกล็ดใหม่จากท้องเป็นสีขาว เมื่อปลาโตขึ้นจึงเหมือนกับว่าสีขาว
ดันขึ้นจากล่างขึ้นบน จนถึงส่วนกลาง ส่วนสีแดงข้างบนนั้นจะเลื่อนลงมาข้างล่างจนถึงกลางลำตัวเช่นกัน
แต่ว่าส่วนบนจะยืดขึ้นน้อยกว่าส่วนล่าง โดยมีสัดส่วนเป็น 1: 2 (โดยประมาณ)
เมื่อเทียบกับการเคลื่อนที่ของสีขาว (จากล่างขึ้นบน) ส่วนนี้เอง ที่ทำให้ดูเหมือนกับสีแดงหดขึ้นไปข้างบน
ลองดูตามภาพโคฮากุข้างล่างนี้นะครับ รูปแรก คือปลาอายุ 1.5ปี ขนาดประมาณ 30ซม. ส่วนรูปล่าง2รูป คือเมื่อปลาโตขึ้น ขนาด60ซม.
เรื่องของการมองปลาไปที่อนาคต ยังมีอีกหลายมุมมองครับ
1. “ปลาคาร์พที่ดีคือปลาที่สามารถพัฒนาได้ดีขึ้นในอนาคต”
ดังนั้นจึงมีกรณีปลาที่ชนะการประกวดมาราคาถูกกว่า ปลา Tate และคาชิร่า อีกอย่าง Tategoi เป็นปลาได้ตั้งแต่ 1-2-3 ปีครับ เพราะ peak performance อยู่ที่ 5 ปีไปแล้ว
2. “ลักษณะลำตัวที่โตขึ้น สามารถเปลี่ยนความสวยงามของปลาได้”
ข้อนี้บอกว่าเวลาเลือกปลาจะต้องใช้จินตนาการว่าถ้าปลาตัวที่เราปิ๊งโตขึ้นแบบว่า เบ่งออกด้านข้าง pattern จะมีการเปลี่ยนไปอย่างไร ปลาบางตัวตอนเล็กดูดีพอตอนโตแล้วลายลอยเป็นต้น ดังนั้นเวลาเลือกจะต้องใช้จินตนาการเวลาเลือกคือลองนึกดูว่าเมื่อโตขึ้นแล้วลายจะออกมาอย่างไร pattern ของ Kohaku จึงควรที่จะห่อตัวโดยให้ลายแดงลึกลงไปเลยเส้นกลางลำตัวของปลา เมื่อโตขึ้นจะได้ไม่ลอย
3. “อย่ากังวลกับครีบแตกหรือครีบโคนแดงของปลา Tosai”
4. “ผิวสีชมพูบน shiroji ในปลา Tosai สามารถให้ผิวสีขาวที่มีคุณภาพดี”
5. “Shiroji จะกว้างขึ้นเมื่อปลาโตขึ้น”
Shiroji ส่วนที่เป็นสีขาวที่อยู่ระหว่าง hi (สีแดง) เวลาเราเลือกปลา Tosai นั้นอาจดูแคบ แต่เมื่อโตขึ้นจะถ่างออก (จากหน้าไปหลัง) เนื่องจากปลาโตขึ้น ซึ่งก็คือเวลาเลือกซื้อควรจินตนาการทั้งว่าปลาตัวขยายขึ้นและยาวขึ้นด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจริงๆแล้วการซื้อปลา Tosai นั้น pattern และรูปร่าง (body conformation) มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้สูง
ดังนั้นการซื้อปลา Nisai (2 ปี) หรือยิ่งเป็น Sansai (3 ปี) จะมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า
6. “Sashi ที่ดี และ Kiwa ที่ดี”
Sashi คือส่วนที่เกล็ดสีขาวทับบนเกล็ดสีแดง จะเห็นได้ว่าเกล็ดสีขาวจะใสๆดังนั้นจึงเห็นขอบ (Sashi) เป็นสีชมพู
Sashi ที่ดีที่สุดจะเรียงเกล็ดแถวเดียวตลอดแนวที่ Shiroji(สีขาว) มาเจอกับ Hi(สีแดง) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซ้อนกัน 2 เกล็ดคือสีชมพู 2 เกล็ดและสม่ำเสมอก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ดังนั้นการเลือก sashi ที่ดีคือต้องมีความสม่ำเสมอในรอยต่อนั่นเอง
หากเป็นปลาที่มีคุณภาพดีเกล็ดสีแดงจะมีความเข้ม (ไม่ใสตามที่เรามักจะใช้คำว่าแดงลึกนั่นเอง)
ซึ่งญี่ปุ่นเค้าเปรียบเทียบกับรอยมีดโกนตัด (Razor cut) การเลือก Kohaku ที่ดีจึงต้องพิจารณา Sashi และ Kiwa
ด้วยนอกจาก body conformation (ลักษณะรูปร่าง) และ pattern (ลวดลาย) ในปลาขนาด size 4-5 ขึ้นไป
บางตัวมีpatternที่ดีแต่ดูไม่สะดุดตาเนื่องจาก SashiและKiwaเบลอ การเลือกsashi และkiwaที่ดีจะเป็นการทำให้patternชัดเจน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น